UFABETWINS โตริโน่ โชว์ฟอร์มกลับมาซัด ฟิออเรนติน่า 2-1

โตริโน่ โชว์ฟอร์มกลับมาซัด ฟิออเรนติน่า 2-1

โตริโน่ คืนฟอร์มหลังได้ คริสเตียน อันซัลดี้ โชว์ของ ทั้งยิง-ทั้งจ่ายพาทีมเชือด ”ม่วงมหากาฬ” 2-1 คว้าชัย 2 เกมติดต่อกัน ส่วนทาง ฟิออเรนติน่า อาการแย่ 5 เกมหลังยังไม่ชนะใคร ในศึกฟุตบอลกัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี คืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา

สนาม : โอลิมปิโก กรันเด้ โตริโน่

โตริโน่ต้องปราศจาก ซิโมเน่ เอเดร่า ที่ถูกพักแข้ง รวมถึง อันเดรีย เบล็อตติ ที่ยังไม่หายเจ็บ ทำให้ต้องปรับทัพใช้ ซิโมเน่ แวร์ดี้ กับ อเล็กซ์ เบเรนเกร์ ทำเกมรุกอยู่ข้างหลัง ซิโมเน่ ซาซ่า ด้านฟิออเรนติน่ามีข่าวดีที่ เฟเดริโก้ เคียซ่า ฟิตกลับมาแล้ว พร้อมส่ง ดูซาน วลาโฮวิช ลงล่าตาข่าย

เปิดฉาก แค่ 12 นาที เจ้าถิ่นต้องเปลี่ยนตัวเป็นคนแรกแล้ว หลัง ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี มีอาการบาดเจ็บ ทำให้ส่ง โอล่า อายน่า ลงเล่นแทน โอกาสแรกเป็นของ ”กระทิงหิน” ซาซ่า หลุดเข้าไปซัดในกรอบเขตโทษ แต่ บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้ ยังใช้ขาช่วยสกัดได้หวุดหวิด

ลูกทีมของ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ มาได้ประตูก่อนในนาทีที่ 22 เมื่อ คริสเตียน อันซัลดี้ ครอสจากซ้ายเข้ากลางให้ซาซ่าโหม่งตุงตาข่าย ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นเกมเงียบไปเลย ทั้งสองทีมไม่มีจังหวะอันตรายอะไรเพิ่มเติม

จบ 45 นาทีแรก โตริโน่จึงออกนำก่อน 1-0

เริ่มครึ่งหลัง ”ม่วงมหากาฬ” รุกทันที เอริค ปุลการ์ เปิดลูกเตะมุมให้วลาโฮวิชโขกหลุดกรอบไปนิดเดียว ทีมเยือนโหมแล้ว นาทีที่ 55 เคียซ่าโยนจากซ้ายเข้ากลาง อันซัลดี้สกัดมาเข้าทาง มาร์โก เบนัสซี่ สวนด้วยขวาไม่เข้าเป้า

ถัดมาเคียซ่าหลุดเข้าไปกระหน่ำด้วยขวาในกรอบเขตโทษ ทว่า ซัลวาตอเร่ ซิริกู ยังเซฟไว้ได้ที่เสาแรก อย่างไรก็ตาม เป็นพลพรรค ”อิล โตโร่” ที่มาบวกเพิ่มได้อีกเม็ดในนาทีที่ 72 คราวนี้อันซัลดี้พาบอลขึ้นมาเอง ก่อนสับไกด้วยซ้ายจากระยะประมาณ 20 หลา พุ่งเรียดเบียดเสาเข้าไป หนีห่าง 2-0

ลูกทีมของ วินเชนโซ่ มอนเตลล่า มาได้ประตูปลอบใจช่วงทดเจ็บ จากจังหวะที่เคียซ่ากระชากถึงเส้นหลังฝั่งซ้าย ก่อนปาดเข้ากลางให้ มาร์ติน กาเซเรส ชาร์จจ่อๆ ไม่เหลือ

จบเกม โตริโน่ ทุบชนะ ฟิออเรนติน่า 2-1 คว้า 3 คะแนนเต็มได้สำเร็จ

รายชื่อนักเตะทั้งสองทีม

โตริโน่ : ซัลวาตอเร่ ซิริกู – อาร์มันโด้ อิซโซ่, นิโกล่าส์ เอ็นคูลู, เบรเมอร์ – ลอเรนโซ่ เด ซิลเวสตรี (โอล่า อายน่า น.12), ดานิเอเล่ บาเซลลี่, โทมัส รินคอน, คริสเตียน อันซัลดี้ – ซิโมเน่ แวร์ดี้ (ดีเอโก้ ลักซาลต์ น.76), อเล็กซ์ เบเรนเกร์ (ซูอาลิโอ เมอิเต้ น.58) – ซิโมเน่ ซาซ่า

ฟิออเรนติน่า : บาร์โตเมีย ดราคอฟสกี้ – มาร์ติน กาเซเรส, นิโกล่า มิเลนโควิช, เฟเดริโก้ เชคเครินี่, ดัลเบิร์ต – ราชิด เกซซัล (ริคคาร์โด้ ซ็อตติล น.51), มาร์โก เบนัสซี่, เอริค ปุลการ์, กาเอตาโน่ คาสโตรวิลลี่, เฟเดริโก้ เคียซ่า – ดูซาน วลาโฮวิช (เปโดร น.78)

 

อ่านต่อได้ที่ >>> ผลบอลอิตาลี

เพิ่มเติมได้ที่ >>> https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

UFABETWINS ด่วนที่สุด นาโปลีเด้งอันเชลอตติเรียบร้อย

นาโปลี จัดการเด้ง คาร์โล อันเชลอตติ พ้นเก้าอี้กุนซือเรียบร้อย โดยคาด เจนนาโร่ กัตตูโซ่ เตรียมเข้ามานำทีมแทน

UFABETWINS

UFABETWINS

นาโปลี สโมสรดัง แห่งเวที กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี ประกาศปลด คาร์โล อันเชลอตติ ยอดกุนซือชาวอิตาเลียน พ้นตำแหน่ง เฮดโค้ช อย่างเป็นทางการ เมื่อวันอังคารที่ 10 ธันวาคม ที่ผ่านมา

    อันเชลอตติ เพิ่งประกาศกร้าวว่า ตนจะไม่มีวันลาออก จากตำแหน่ง หลังพาทีมเปิดบ้านยำ เกงค์ 4-0 ในศึก ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์  ลีก เมื่อคืนวันอังคาร พร้อมคว้าตั๋วลุยรอบ 16 ทีมสุดท้ายได้สำเร็จ ทว่าหลังจากนั้น เพียงไม่กี่ชั่วโมง นาโปลี ก็ได้ประกาศเด้ง กุนซือวัย 60 ปี พ้นตำแหน่ง

    “นาโปลี ได้ตัดสินใจ ถอดถอน คาร์โล อันเชลอตติ ออกจากตำแหน่ง เฮดโค้ช เรียบร้อย สายสัมพันธ์ แห่งมิตรภาพ และความเคารพ ซึ่งกันและกัน ระหว่างสโมสร, ท่านประธาน (ออเรลิโอ เด เลาเรนติส) และ คาร์โล อันเชลอตติ จะยังคงมีเหมือนเดิม” แถลงการณ์ยืนยัน จาก นาโปลี ระบุ

 

นาโปลีได้ไล่ออก ผู้จัดการคาร์โล อันเชลอตตี น้อยกว่าสามชั่วโมง หลังจากที่ เขานำพวกเขาเข้าสู่ขั้นตอน การทำให้ล้มเหลว

UFABETWINS

UFABETWINS

เซเรียอาคลับไม่ชนะในเก้าเกมในทุกการแข่งขันจนถึงวันอังคารที่ 4-0 ที่บ้านเกนก์จะประสบความสำเร็จ

Ancelotti อยู่ในฤดูกาลที่สองของเขาในความดูแลของนาโปลี แต่พวกเขานั่งที่เจ็ดในลีกหลังจากนั้นวิ่งยากจน

พวกเขาเป็นทีมเดียวที่เอาชนะลิเวอร์พูลได้ใน 90 นาทีในฤดูกาลนี้เอาชนะเรดส์ 2-0 ในเดือนกันยายน

เมื่อเดือนที่แล้วผู้จัดการและผู้เล่น Napoli อยู่ในข้อพิพาทสูงกับประธานาธิบดี Aurelio de Laurentiis

เดอลอเร็นทีส สั่งให้ทีม เข้าร่วมค่าย ฝึกอบรมนาน หนึ่งสัปดาห์ แต่ Ancelotti และผู้เล่น ของเขากลับบ้านทุกคน

Ancelotti ผู้ชนะพรีเมียร์ลีกและ FA Cup Double กับ Chelsea ในปี 2009-10 ได้เชื่อมโยงกับตำแหน่งผู้จัดการว่างที่ Arsenal และ Everton

เขาเป็นหนึ่ง ในผู้จัดการ เพียงสามคนเท่านั้น ที่จะได้รับ ถ้วยยุโรป / แชมเปี้ยนส์ลีก สามครั้ง – พร้อมกับบ็อบเพสลี่ย์ ตำนานลิเวอร์พูล และซีเนดีนซิดาน หัวหน้าทีมเรอัลมาดริด

Ancelotti ชนะสองแชมเปี้ยนลีก กับเอซีมิลาน และเป็นหนึ่ง เดียวกับเรอัลมาดริด เช่นเดียวกับตำแหน่ง ในประเทศกับ มิลานเชลซีปารีส แซงต์แชร์กแมง และบาเยิร์นมิวนิค

เขาดูเหมือน จะไม่ทราบว่า การประกาศนั้น ใกล้จะเกิดขึ้น หลังจากการชนะ เหนือ Genk เมื่อเขากล่าวว่า: “ฉันจะคุย กับประธานาธิบดี เดอลอเรนติส ในวันพรุ่งนี้ และเราจะทำ การตัดสินใจ ที่ดีที่สุดสำหรับนาโปลี

“ เท่าที่ฉัน กังวลกับผู้เล่น บางคนกลับมา และเงื่อนไข ที่เหมาะสม ในสถานที่ทีมนี้ ยังคงสามารถกำหนด เป้าหมายที่สี่

“ ชัยชนะในคืนนี้ เป็นน้ำหนัก จากไหล่ของเรา และสามารถ ให้ผู้เล่น ได้รับการส่งเสริม อย่างมากสำหรับอนาคต”

แต่ทวีต ในภายหลัง ในเย็นวันนั้นก็ “SSC Napoli ได้ตัดสินใจ ที่จะแยกทาง กับโค้ชทีม แรกคาร์โล Ancelotti

“มิตรภาพ และความเคารพ ซึ่งกันและกัน ระหว่างสโมส รประธาน Aurelio de Laurentiis และ Carlo Ancelotti ยังคงเหมือนเดิม”

รายงาน ในสื่อของ อิตาลีแนะนำ ว่า Gennaro Gattuso ซึ่งถูกไล่ออก จากเอซีมิลาน เมื่อสิ้นสุดฤดูกาล ที่ผ่านมาได้เข้าแถวแทน Ancelotti

ติดตามได้ที่ >>> ผลบอลอิตาลี

คลิกเลย >>> https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

UFABETWINS นาโปลี : ผิดที่โค้ชหรือที่เจ้าของทีม?

ถ้าเป็นตลอดหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ ประเด็นที่บรรดาแฟนบอลใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี

นาโปลี : ผิดที่โค้ชหรือที่เจ้าของทีม?

ถ้าเป็นตลอดหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ ประเด็นที่บรรดาแฟนบอลใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มักจะพูดถึงกันก็หนีไม่พ้นการที่ นาโปลี จะขึ้นมาแย่งแชมป์ลีกกับ ยูเวนตุส หลังจากที่ทีมดังจากเมืองเนเปิ้ลส์มักจะเล่นได้โดดเด่นจนถูกยกให้เป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะเขี่ย ยูเวนตุส ตกจากบัลลงก์ได้

น่าเศร้าที่ซีซั่นนี้มันไม่เป็นแบบนั้น ปัจจุบัน นาโปลี เป็นอันดับ 7 ของตารางคะแนน มีเพียง 21 แต้ม จากการลงเล่น 15 นัด ตามหลัง อินเตอร์ มิลาน ที่เป็นจ่าฝูงห่างถึง 17 คะแนน และที่จริงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์เลย ขนาดการลุ้นติดท็อปโฟร์เพื่อให้ได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ยังถือว่าหินพอตัว เพราะพวกเขามีคะแนนน้อยกว่า กายารี่ ทีมในอันดับ 4 อยู่ 8 แต้มด้วยกัน

ผลงานอันเลวร้ายดังกล่าวทำให้กระแสข่าวที่ว่า คาร์โล อันเชลอตติ จะโดนปลดจากการเป็นเทรนเนอร์ของ นาโปลี มีออกมาเรื่อยๆ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และในที่สุด อันเชลอตติ ก็ต้องกลายเป็นคนตกงาน ผลงานสุดท้ายของเขากับ นาโปลี คือการพาทีมชนะ เกงค์ 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม จนทำให้ทีมได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย

แน่นอน ถ้าวัดตามผลงานในลีก การสั่งปลด อันเชลอตติ ก็ดูพอจะมีความชอบธรรม เพราะทีมระดับ นาโปลี ควรจะต้องมีผลงานที่ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอ เลาเรนติส ก็มีส่วนทำให้ทีมมีสภาพเหมือนอย่างในปัจจุบัน

จริงอยู่ว่าคนเป็นโค้ชคือคนที่วางแผนการเล่น แต่ฟุตบอลมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “แท็กติก” เพียงอย่างเดียว บรรยากาศของทีมก็ถือว่ามีผลกับฟอร์มของนักเตะในสนามเช่นกัน และซีซั่นนี้ เดอ เลาเรนติส ก็เป็นคนที่ทำลายบรรยากาศอันชื่นมื่นของ นาโปลี ด้วยมือของตัวเอง

เรื่องของเรื่องก็คือ เดอ เลาเรนติส โมโหกับผลงานของทีมมากๆ จนอยากให้นักเตะทุกคนต้องเข้าแคมป์เก็บตัวแบบปัจจุบันทันด่วนเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม หลังจากที่ทีมแพ้ โรม่า และเสมอกับ อตาลันต้า โดยการเข้าแคมป์เก็บตัวมันก็หมายความว่าบรรดานักเตะจะไม่ได้มีโอกาสกลับไปเจอครอบครัวที่บ้าน ซึ่งว่ากันว่านั่นทำให้นักเตะหลายคนของ นาโปลี โมโหสุดๆ และตำหนิ เดอ เลาเรนติส กันยกใหญ่

ไม่เพียงแค่นั้น อันเชลอตติ เองก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ เดอ เลาเรนติส เหมือนกัน ด้วยการบอกว่า “มันเป็นไอเดียของบอร์ดบริหาร และเราก็ยอมรับมีน แต่ถ้าคุณถามผมว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้รึเปล่าแล้วน่ะ ผมก็ต้องตอบเลยว่าผมไม่เห็นด้วย”

ว่ากันว่าแนวคิดดังกล่าวทำให้นักเตะ นาโปลี หลายคนไม่พอใจมากๆ และตำหนิ เดอ เลาเรนติส กันยกใหญ่ ซ้ำร้ายมันยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส เลวร้ายลงไปอีก

รอยร้าวระหว่าง อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส มีมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว หลังจากที่พวกเขามีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องนโยบายการเสริมทัพ และ อันเชลอตติ ก็มองว่าทีมทำการเสริมทัพช้าเกินไป จนทำให้กลัวว่าเขาจะชวดนักเตะที่เป็นเป้าหมายบางราย ทั้งที่ทีมอุตส่าห์แอบทำเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะเหล่านั้นได้แล้ว โดยปัญหาเรื่องนโยบายการเสริมทัพมันเป็นประเด็นร้อนจนถึงขนาดทำให้ อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส ต้องนัดเคลียร์ใจกันอย่างเร่งด่วน

เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงการร่วมงานด้วยยากของ เดอ เลาเรนติส มากขึ้นไปอีก โดยมันมักจะมีการซุบซิบกันว่านักธุรกิจในวงการภาพยนตร์อิตาลิรายนี้ชอบก้าวก่ายการทำทีมมากเกินไป และในอดีตเขาก็เคยจุดประเด็นร้อนเกี่ยวกับกุนซือของทีมตัวเองมาแล้ว

ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือของ นาโปลี นั้น เดอ เลาเรนติส ก็เคยสั่งให้ทีมต้องเข้าแคมป์เก็บตัวแบบด่วนจี๋ในปี 2015 เช่นกัน และมันก็ทำให้ เบนิเตซ โมโหสุดขีด ทั้งที่ตอนแรกๆ ทั้งสองคนนี้รักกันมากๆ โดยตอนที่ได้ เบนิเตซ มาคุมทีมใหม่ๆ นั้น เดอ เลาเรนติส ถึงขั้นชม เบนิเตซ ด้วยซ้ำว่าจะพาทีมก้าวไปอีกระดับได้

เบนิเตซ กล่าวในประเด็นที่โดนสั่งจัดแคมป์ซ้อมว่า “ปีก่อนเราก็พิสูจน์ไปแล้วแท้ๆ ว่าเราสามารถชนะได้โดยที่ไม่ต้องมาเข้าแคมป์ซ้อมด่วนอะไรทั้งนั้น ไอ้นโยบายแบบนี้น่ะมันเป็นนโยบายที่คนยุค 1970 เขาใช้กัน คือผมน่ะไม่ได้คัดค้านกับการเข้าแคมป์ซ้อมด่วนหรอกนะ แต่ผมคัดค้านการเข้าแคมป์ซ้อมที่จะไม่ได้ช่วยอะไรนักเตะเลย แถมยังเป็นการสร้างความหงุดหงิดให้พวกเขาอีกต่างหาก”

 เบนิเตซ กล่าวในประเด็นที่โดนสั่งจัดแคมป์ซ้อมว่า “ปีก่อนเราก็พิสูจน์ไปแล้วแท้ๆ

นาโปลี : ผิดที่โค้ชหรือที่เจ้าของทีม?

หรืออย่างตอนที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังเป็นเทรนเนอร์ของ นาโปลี อยู่นั้น เดอ เลาเรนติส ก็ดันเคยออกมาพูดหน้าตาเฉยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปีก่อนว่า ซาร์รี่ คือคนที่ทำให้ทีมต้องชวดแชมป์ จากการไม่พยายามทำการโรเตชั่น

“มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ (ที่ นาโปลี จะชวดแชมป์) นอกจากว่าคุณจะใช้นักเตะทุกคนที่มีอยู่ในทีม ลองคิดดูสิ ถ้าเรามีการโรเตชั่นบ้างมันก็จะทำให้บางช่วงเรามีสภาพดีกว่านี้ และเตรียมพร้อมสำหรับช่วงโค้งสุดท้ายได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าเราเอาแต่ใช้นักเตะชุดเดิมตลอดเวลาแล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละ” ไม่กี่วันหลังจาก เดอ เลาเรนติส พูดแบบนั้น ซาร์รี่ ก็ไปคุม เชลซี

จริงอยู่ว่าสิ่งที่ เดอ เลาเรนติส พูดมันมีส่วนถูก แต่ในมุมหนึ่งนั้นมันก็ต้องมองด้วยว่าขุมกำลังของ นาโปลี ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำการโรเตชั่นแล้วยังได้ผลการแข่งขันที่ดีได้ หรือถ้าอยากจะพูดเรื่องนี้จริงๆ เขาก็น่าจะไปคุยกับ ซาร์รี่ เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ออกมาป่าวประกาศต่อหน้าสื่ออย่างนี้

นี่ยังไม่นับรวมกรณีของ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ที่ เดอ เลาเรนติส ตามจิกกัดอยู่บ่อยๆ ในตอนที่ มาซซาร์รี่ ไปคุม อินเตอร์ อีก ขณะที่สถานการณ์ในตอนนี้มันก็ทำให้มีแฟนบอล นาโปลี บางคนที่ถึงขั้นขับไล่ เดอ เลาเรนติส แล้วด้วย ทั้งที่เขาเคยถูกยกให้เป็นฮีโร่ของทีมประหนึ่งพระเอกหนัง ในตอนที่เข้ามาซื้อทีมเมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นตอนที่ทีมถูกตัดสินให้ล้มละลาย และลงไปเล่นใน ซีเรีย ซี 1

มันช่างเหมือนกับตลกร้ายที่ถึงแม้ เดอ เลาเรนติส จะโลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ แต่นับตั้งแต่ใช้งาน มาซซาร์รี่ เป็นกุนซือแล้วนั้น เขาก็ไม่ค่อยจะมีตอนจบกับกุนซือคนไหนแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเลย และตอนนี้เรื่องราวของเขากับ นาโปลี มันก็กลายเป็นหนังดราม่าเต็มพิกัดแล้ว

เครดิตโดย: โปรโมชั่นแทงบอลฟรี

อ่านต่อได้ที่: https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

UFABETWINS: ไปทำไม บัลลง ดอร์ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ โผล่รับรางวัลแข้งเจ๋งสุดเซเรีย อา

คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ดาวยิงยูเวนตุส ได้บอกปัดที่จะไปร่วมงานบัลลง ดอร์

หลังทราบแน่แล้วว่ารางวัลไม่ใช่ของตนเอง โดยแข้งวัย 34 ปี เลือกที่จะไปงาน Gran Galà del Calcio แทนที่ เนื่องจากตนเองได้ตำแหน่งผู้เล่นยอดเยี่ยมประจำปีของเซเรีย อา อิตาลี จากรายงานของ marca.com เมื่อ 3 ธันวาคม 2562

สำหรับงานประกาศรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยม นั้น จัดขึ้นโดย สมาคมนักฟุตบอล อิตาลี (AIC) ซึ่งมีการประกาศรางวัลในเวลาที่ไล่เลี่ยกันกับทาง บัลลง ดอร์ ส่งผลให้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เลือกที่จะไปงานที่ตนเองได้รับรางวัลดีกว่า

   คริสเตียโน่ โรนัลโด้ กล่าวว่า “แน่นอนว่าผมพยายามที่จะพูดอิตาเลียนนะ และผมดีใจมากที่ได้รับการยกย่องว่าเป็นดาวยิงที่ดีที่สุดของลีกอิตาลี ผมต้องขอขอบคุณเพื่อนร่วมทีม ขอบคุณเพื่อนนักเตะทุกคนที่โหวตให้ผม และผมอยากบอกว่า หลังอยู่อิตาลีมา 2 ปี ลีกนี้มันยากมากจริง ๆ”

“ผมต้องขอบคุณทุกคนอีกครั้ง และหวังว่าปีหน้ามันจะเป็นแบบนี้อีก”

ทั้งนี้ ในฤดูกาลที่ผ่านมา CR7 ลงสนามไปทั้งสิ้น 43 นัด ยิงได้ 28 ประตู ในลีก ซึ่งนับว่าเป็นผลงานอันยอดเยี่ยมเขาจึงได้รับรางวัลผู้เล่นยอดเยี่ยมของเซเรีย อา

ลิโอเนล เมสซี่ เผยความในใจหลังเห็น โรนัลโด้ ซิวบัลลง ดอร์ สมัย 5

ลิซ่าเนสเมิร์ทยอด 1 ในโลกที่ออก มายอมรับว่า เป็นสิ่งที่ ไม่ควรพลาด ว่าตน ไม่ใช่เบอร์ 1 อีกต่อไป จากรายงานของ givemesport.com เมื่อ 4 ธันวาคม 2562

สำหรับดาวยิงวัย 32 ปี ที่เพิ่ง จะจบลง เมื่อ 6 ปี ที่แล้ว ที่พวกเขา ได้รับการฝึกฝน มาแล้ว ในตอนท้าย ไม่ต้องเสียเงิน มาก ๆ เลย

        ลิซ่าเนลเมสซี่กล่าวว่า “แน่นอนว่าตอนที่ฉันได้รับรางวัลมาแล้ว 5 ครั้งผมคิดว่ามันยอดเยี่ยมและมีค่าต่อผมแล้วเพราะผมเป็นเพียงคนเดียวที่ได้รับการดูแลเมื่อตอนที่โรนัล ได้รับประวัติศาสตร์ที่ 5 ขึ้นมา

“เพราะมันแสดงให้เห็นว่าผมไม่ได้ยืนอยู่ บนจุด สูงสุด เพียงคนเดียว อีกต่อไปแล้ว แต่ตอนนั้นมันก็เหมาะสมแล้ว ล่ะค่ะ ที่เขาได้รับมัน ผมก็ทำ อะไรไม่ได้ ด้วยตนเอง ต่อไปสำหรับรางวัลนี้การได้รับรางวัล แชมป์เปี้ยนลีก มันจะเป็น การเพิ่มดีกรี ให้กับเรา ”

เซลิน่าเนชั่นชุดใหญ่ มาแล้วทั้งหมด 701 นัดยิงไป 614 ประตูพร้อมกับเอาชีวิตรอดมาถึง 6 สมัย

ลิซ่าเนลเมสซี่ สุดยอดดาวยิงของบาร์เซโลน่าชนะ การแข่งขัน ฟุตบอลโลก ครั้งที่แล้ว 2019 ได้รับชัยชนะจากพิธีมอบรางวัล รางวัลที่ได้รับ จัดขึ้นที่ กรุงลอนดอนประเทศฝรั่งเศส

ดาวเตะวัย 32 ปีที่ได้รับ รางวัลทองคำ เป็นรางวัลที่ 6 ปีที่ผ่านมามากที่สุดในประวัติศาสตร์เมื่อปี 2009, 2010, 2011, 2012, 2015 และ 2019 โดยตอนนี้ ทำสถิติ 5 ดังเรียบร้อยแล้ว

คะแนนที่ได้รับจะได้รับการ ลงคะแนน เป็นอันดับ 2 ขณะนี้อยู่ในอันดับที่ 3 ขณะที่อันดับ 3 ได้รับการจัดอันดับให้เป็นหนึ่งในงาน นำเสนอ โดย เจ้าตัวเลือกไปร่วมงานรับรางวัลยอดเยี่ยมเซเรียย

“เมื่อ 10 ปีก่อนที่ฉันจะได้รับรางวัลจากการตกหลุมรักกันครั้งแรกที่ฉันได้เห็น 3 คนมาร่วมงานนี้และวันนี้ฉันได้รับรางวัลที่ 6 ผมได้พาไปร่วมงาน” ลิโอเนลเมสซี่อ้าง

ส่วนที่ได้รับรางวัล “โกปาโทรฟี่” ดาวรุ่งยอดเยี่ยม ประจำปี 2019 ส่วนที่เหลือ จากการ แข่งขันรอบสุดท้าย แอสฟัลท์ ตามลำดับ

เครดิตโดย>> https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

อ่านต่อได้ที่>> ผลบอลอิตาลี

ข่าวบอล อิตาลี Mario Balotelli จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระในเดือนมกราคม

Mario Balotelli (ขวา) เปิดตัวในเดือนสิงหาคมโดย Massimo Cellino เจ้าของ Brescia แต่เขาทำได้เพียงสองประตูจากแปดนัด

ข่าวบอล อิตาลี

มาริโอบาโล เตลลีสามารถ ออกจากเบ รสเซียได้โดย ไม่เสียค่าใช้จ่าย ในเดือนมกราคม เพราะเขาไม่เหมาะ กับการถูก ผลักไส

Balotelli, 29 , ได้คะแนนเพียงสอง ครั้งและได้รับ ความเดือดร้อน ละเมิดชนชั้นใน การแข่งขัน กัลโช่ไปเฮล ลาสเวโร นา

“ ในเดือน มกราคมเขาสามารถ ออกเดินทาง ได้ฟรีในเวลานี้เขา ต้องเลือกถนน ที่ดีที่สุดสำหรับเขา ” เซลลิโน่กล่าว

ประธานาธิบดียัง ไล่ผู้จัดการ Fabio Grosso หลังจากสาม เกมและแต่ง ตั้ง Eugenio Corini ผู้เป็นบรรพบุรุษ

Balotelli อดีตแมนเชส เตอร์ซิตี้และลิเวอร์พูลไป ข้างหน้ามา ถึงฤดูร้อนจา กมาร์เซย์ แต่เขามีเพียงสอง เป้าหมายใน การปรากฏตัว แปด

ตอนนี้ Cellino เจ้าของอดีตลีดส์ยูไนเต็ด ได้กล่าวในการ ให้สัมภาษณ์ทางโทรทัศน์อิตาลีว่าเขา จะไม่ยืนอยู่ใน ทางของ Balotelli ถ้าเขาต้องการ ออกจากหน้าต่าง โอนย้าย

“ มาริโอ เศร้าเพราะเขา ไม่สามารถเล่นเกม ของเขาได้” เขา กล่าว

“การต่อสู้เพื่อ เอาชีวิตรอด ในเซเรียอา ต้องการการเสีย สละครั้งใหญ่และ บางทีเขาคิดว่า มันจะง่าย กว่านี้มาก”

ความคิดเห็น ล่าสุดของ Cellino เกิดขึ้นหลัง จากที่ Balotelli ถูก ทิ้งเมื่อเดือน ที่แล้วโดย Grosso ผู้ท้าดวลไป ข้างหน้าเพื่อ แสดง “ความมุ่ง มั่นและความ กระตือรือร้น” มากขึ้น เพื่อฟื้นตำแหน่ง ของเขาใน ด้าน

เมื่อถูก ถามว่าทำไม Balotelli ถึงตกหล่นCellinoอดีต เจ้าของลีดส์ยูไนเต็ด กล่าวว่า: “ฉัน จะพูดอะไร ได้บ้างว่าเขา เป็นคนผิว ดำและเขา กำลังทำงานเพื่อ ขาว แต่เขามีปัญหา ใหญ่ในเรื่องนี้”

เบรเซียกล่า วว่าความ คิดเห็นของ Cellino เกี่ยวกับ การลดลง ของ Balotelli คือ “เรื่องตลกที่กล่าว ว่าเป็นความ ขัดแย้ง”นั่น คือ “เข้าใจผิด อย่างชัดเจน”

เบรสเซียอ ยู่ด้านล่างของ เซเรียอาด้วย เจ็ดคะแนนจาก 13 แมตช์และกรอ สโซ่ผู้ทำประตูชนะ อิตาลีในการแข่งขัน ฟุตบอลโลกรอบ สุดท้ายปี 2549 แพ้ทั้ง สามเกมโดย ไม่มีทีมใดทำ คะแนนได้

Cellino ได้รับการขนาน นามว่าเป็น “ผู้จัดการผู้กิน” เพราะ ผู้จัดการคนนี้มีเวลา หกปีครึ่งที่เบ รสเซียหลัง จากหกปีที่เขา ทำงานกับลีดส์ระหว่าง เดือนมกราคม 2014 ถึงมิถุนายน 2560

Gianluigi Buffon ลงนามใหม่ให้ยูเวนตุสในเดือนกรกฎาคมหลังจากใช้เวลา 17 ปีที่สโมสรระหว่างปี 2544 ถึงปี 2561

ข่าวบอล อิตาลี

ข้อผิดพลาดจากผู้รักษาประตูเกียนลูจีบุฟฟ่อนเห็นยูเวนตุสจัดโดย Sassuolo ที่สนามกีฬาอลิอันซ์

Leonardo Bonucci เปิด การให้คะแนนหลัง จาก 20 นาทีด้วย การนัดหยุด งานที่เบี่ยงเบน ก่อนที่ชิปชิพ ของ Jeremie Boga จะปรับระดับ คะแนนหลังจาก นั้นไม่นาน

ทาง ด้านจากนั้น ก็นำหลังจาก ช่วงเวลาที่ Buffon คลำความพยายาม ของ Francesco Caputo เข้าสุทธิ

Cristiano Ronaldo อยู่ในมือ ที่จะทำให้เท่ากัน และบันทึกหน้า แดงของทีม ของเขาด้วย การลงโทษด้วย 22 นาทีที่เหลือ

ไพร่พล เริ่มต้นได้ดีใน ตูรินขณะที่พวก เขาพยายามที่จะ ทำให้มันชนะห้า ลีกติดต่อกัน แต่เอ็มเรสามารถไม่สามารถ เปลี่ยนจากระยะ ใกล้ในช่วงเวลา ที่เปิด

จากนั้น ด้านของเมา ริซิโอซารีจึง กลายเป็นผู้นำ ที่สมควรได้รับเมื่อ การยิงของ กัปตันโบ นูชิจากขอบกล่อง ถูกเบี่ยงเบน ไปในมุม ที่ไกลออกไป

แต่ผู้นำของพวก เขาใช้เวลาเพียง สองนาทีในขณะ ที่ Boga เอาชนะกับ ดักล้ำหน้า และยกบอล ข้าม Buffon เพื่อ ทำให้ 1-1

Sassuolo ที่เพิ่มขึ้นเป็น อันดับที่ 12 ได้ทำการ ทดสอบผู้รักษาประตูวัย 41 ปีของยูเวน ตุสอย่างสม่ำเสมอ และเขาผิด เมื่อพวกเขา เป็นผู้นำผ่าน Caputo ในที่สุด

จุกทหารผ่านศึกกำลัง ออกรายการ Serie A ครั้งที่ 645 ของเขา แต่มีเพียง ฤดูกาลที่ห้าของ เขาซึ่งหมายความ ว่าเขาเป็น เพียงการปรากฏ ตัวสองครั้ง จากการไป ถึงสถิติของเปา โลมัลดีฟส์จำนวน 647 เกม

หมายเลขตรงข้าม ของ Buffon, Stefano Turati ผู้ซึ่งได้ทำ การเดบิวต์อาวุโส ให้กับ Sassuolo ประทับ ใจในขณะ ที่เขาทำการปรับ หลายอย่างเพื่อ ป้องกันการเตะ ฟรีของ Ronaldo, Gonzalo Higuain และ Aaron Ramsey สาย

แต่ผู้ดูแล เด็กอายุน้อยที่เกิด มา 11 วัน หลังจากบัฟ ฟอนเปิดตัว กัลโช่ในเดือนสิงหาคม 2544 ไม่สามารถยับยั้ง การเตะจุด ที่ทรงพลังของ โรนัลโด ซึ่งทำให้ผู้นำเซ เรียอามีประเด็น

โร นัลโด้ยังมีเป้า หมายตัดออก เป็นล้ำหน้า ใน 1-2

คลิกเลย >>> โปรโมชั่นแทงบอลฟรี
อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

UFABETWINS ด้วย Bennacer มันเป็นเอซีมิลานคนอื่น: มูลค่าของเขาเพิ่มขึ้นแล้ว

ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา Ismael Bennacer นั้นมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเอซีมิลาน: กำกับการแสดง, ครอบคลุมผู้ปกป้อง

UFABETWINS

อย่างดีและกู้บอลในปริมาณที่สูง หลังจากเริ่มต้นฤดูกาลอย่างช้าๆหลังจากเล่นในถ้วยแอฟริกันเนชั่นในช่วงฤดูร้อนนี้กองกลางได้พาแฟนบอลไปด้วยพายุ

เมื่อ Giampaolo เป็นผู้จัดการเขาเล่นแค่สามเกมตั้งแต่เริ่มต้นจากเจ็ดเกมที่เป็นไปได้ ในทางกลับกันกับ Pioli เขาเพิ่งอยู่บนม้านั่งสองครั้งเท่านั้นซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการดำรงตำแหน่งผู้จัดการ เกม Bar the Napoli (ช่วงล่าง) เขาเริ่มทุกเกมตั้งแต่สองเกมนี้

สำหรับมิลานเขาเป็นผู้เล่นคนสำคัญ เขาไม่กลัวที่จะเสี่ยงและสิ่งนี้ส่งผลให้มิลานมีความกล้าหาญและก้าวร้าวมากขึ้น หาก Biglia สงบมีประสบการณ์และช้า Bennacer ก็เป็นสิ่งตรงกันข้ามนั่นคือความกล้าหาญความสดและจังหวะสูง สิ่งนี้ได้แสดงบนสนาม

ในช่วงฤดูร้อนที่ Rossoneri เซ็นสัญญากับเขาเพียง€ 16m หลังจากการแข่งขันเต้นจากโรม่า, นาโปลีและ Fiorentina, เป็น Calciomercato.com การเรียกคืน ตอนนี้มูลค่าของเขาเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการแสดงของเขาในสัปดาห์ที่ผ่าน

Moise Kean ไม่ได้ดีที่สุดเท่าที่เอฟเวอร์ตันตั้งแต่เขาเข้าร่วมกับบลูส์จากยูเวนตุสในช่วงฤดูร้อนปี 2019 ภายใต้ Marco Silva ภายใต้มาร์โคซิลวา Toffees สะดุดไปสู่จุดเริ่มต้นคร่าวๆซึ่งท้ายที่สุดก็นำไปสู่

ซิลวาตกอยู่ภายใต้แรงกดดันอันยิ่งใหญ่ในการสร้างผลลัพธ์และไม่เต็มใจที่จะเสี่ยงกับการเล่นเด็กที่ไม่ผ่านการพิสูจน์ถึงแม้ว่ามันจะเป็นที่ถกเถียงกันอยู่ว่าเป็นความเสียหายของตัวเองขณะที่คีอันประทับใจในคาถาสั้น ๆ

เด็กอายุ 19 ปีได้เริ่ม 4 ครั้งและ 13 นัดสำหรับ Toffees ในฤดูกาลนี้ในพรีเมียร์ลีกและคาราบาวคัพรวมเวลาเล่นเพียง 450 นาทีโดยมีผู้ช่วยเพียงคนเดียวในการแสดงความพยายามของเขา

ในขณะที่แฟน ๆ ที่ไม่แน่นอนหลายคนเต็มใจที่จะเขียนเขาบนพื้นฐานของตัวเลขที่แสดงให้เห็นว่าเป้าหมายจะมาและเขาโชคร้ายมากกว่าสิ่งอื่นใด ในลีกเขามีค่าเฉลี่ย 3.3 นัดต่อ 90 นาทีที่เล่นกับTheo Walcottซึ่งอยู่หลัง 3.7 ของ Cenk Tosun กับผู้ทำประตูสูงสุดของ Blues Richarlison ที่ 2.8 ต่อ 90

อย่างไรก็ตามมันเป็นช็อตจากระยะไกลที่เขาเก่งใช้ฝีเท้าเพื่อสร้างโอกาสในการถ่ายภาพให้กับตัวเองโดยเฉพาะเมื่อเขาโดดเดี่ยว Kean มี 1.4 นัดต่อ 90 จากนอกกรอบนำ Gylfi Sigurdsson ที่มี 1.0 และ Walcott กับ 0.9 ต่อ 90

วัยรุ่นได้รับผลการ ดำเนินงานต่ำกว่า เป้าหมายและความ ช่วยเหลือที่คาดหวัง ของเขาและค่าเฉลี่ย 0.36xG และ 0.34xA ต่อ 90 นาทีซึ่งทำให้เขามีส่วนร่วมในเป้าหมายที่น่านับถือมากถึง 0.70 ประตูต่อ 90 นาทีเล่นนำทีมทั้งหมด – หากมี อาร์กิวเมนต์สำหรับเขาที่จะได้รับเวลาเล่นที่จะเป็น โดมินิคแคลเวิร์ต – เลวินกองหน้าตัวหลักหยุดอยู่ข้างหลังเขาด้วย 0.60 (0.58xG + 0.02xA) Tosun มีเพียง 0.44 (0.38xG + 0.06xA) และ Richarlison อยู่ที่ 0.45 (0.31xG + 0.14xA)

Kean ได้รับการเชื่อมโยง กับเดือนที่ผ่านมา กับการย้ายกลับ ไปอิตาลีในปีที่ จะเกิดขึ้นเดือนมกราคมย้ายหน้าต่างหลักโดยพ่อทองขุดผู้ที่กำลังมองที่จะได้รับการตัดเย็บเป็นค่าธรรมเนียมการโอนและยังตามไม่แข็งซุปเปอร์ตัวแทน Mino Raiola ที่ได้มีการพัฒนา ชื่อเสียงในการสร้างความไม่สงบกับลูกค้าของเขาที่มีความสงบสุข

จากนั้นมีข่าวลือว่าเอซีมิลาน และเอเอสโร่กำลังดูเด็ก นักข่าวกีฬาชาวอิตาลีNicolò Schiraซึ่งรายงานเกี่ยวกับ Kean อย่างกว้างขวาง เมื่อเอฟเวอร์ตันเซ็นสัญญา กับเขาในช่วงฤดูร้อนได้รายงานในวันนี้ว่าโบโลญญา กำลังมองหา ผู้เล่นเพื่อย้ายและการ เจรจานั้นกำลัง ดำเนินต่อไประหว่างเอฟเวอร์ตัน ด้าน

Kean เป็นเพื่อนที่ดีมาก กับเพื่อนหนุ่มชาวอิตาลีNicolò Zaniolo ผู้เล่นการค้าของเขาที่ Roma โดยทั้งคู่มีปัญหาร่วมกันในการเล่นที่ผ่านมาในค่าย Under-23 ที่อิตาลี แต่กับ Edin Dzeko ในหนังสือของพวกเขาเช่นกัน ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้อยู่กับ Kean แฟนคลับยูเวนตุสที่ประกาศตัวเอง ในขณะเดียวกันมิลาน ก็ปรากฏตัวใกล้เคียง กับการลงนามซลาตันอิบราฮิโมวิชอีกครั้งเพื่อแก้ปัญหาอันน่าทึ่งของพวกเขา

แน่นอนว่ามัน จะเป็นเรื่องน่าประหลาด ใจหากเอฟเวอร์ตัน สนใจที่จะยืม ตัวนักเตะออกมาอย่างรวดเร็วปล่อยให้ เขาขายตัวเองทันที เมื่อเขาแสดง ให้เห็นถึงศักยภาพ มากมายทั้งก่อนที่เขาจะเข้าร่วมกับทอฟฟี่ และตั้งแต่นั้นมา คิดว่าการเซ็นสัญญากับ Marcel Brands นั้นไม่น่าเป็นไปได้ที่ผู้อำนวยการฟุตบอล จะยอมปล่อยให้เขา ไปในไม่ช้า แต่ทุกคนก็ขึ้น อยู่กับว่าผู้จัดการทีมคนต่อไปของเอฟเวอร์ตันคือ ใครและถ้า Blues กำลังมองหา พรีเมียร์ลีก ที่มีประสบการณ์ กองหน้าในเดือนมกราคมขณะถ่าย Cenk Tosun ก่อน

 

อ่านต่อได้ที่ >>> ผลบอลอิตาลี

เพิ่มเติมได้ที่ >>> https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins

ข่าวบอล อิตาลี : อมตะไม่มีวันตาย : ยูเวนตุส ชุดลุย “เซเรีย บี” … ศูนย์รวมแข้งนักสู้ที่เงินซื้อไม่ได้

ยูเวนตุส รีแบรนด์สโมสรเพื่อทะยานไปสู่ความสำเร็จด้านธุรกิจในปี 2017 และพวกเขาก็ทำได้ตามเป้าหมายด้วยการก้าวขึ้นมาเป็นเบอร์ 1 ของอิตาลี พร้อมกับกลายเป็นทีมระดับท็อปของโลกอย่างไร้ข้อโต้แย้ง

ตอนนี้พวกเขาคว้าแชมป์ลีกมาแล้ว 8 สมัยติดต่อกันมาตั้งแต่ปี 2012 และยังมีทีท่าว่าจะเดินหน้าต่อไป …

อย่างไรก็ตามทุกความสำเร็จย่อมมีตำนานซ่อนอยู่ แฟนบอลทั่วโลกรู้ว่า “ยูเว่” คือทีมที่ประสบความสำเร็จอย่างมากในลีกสูงสุด แต่ในวันที่พวกเขาตกต่ำที่สุดล่ะ? พวกเขาเจออะไรบ้าง

นี่คือเรื่องราวเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ซึ่ง ยูเวนตุส โดนปรับตกชั้นไปเล่นในลีกรอง โดนตัดแต้ม และกลายเป็นซูเปอร์มาร์เก็ตให้ทีมอื่นๆ ในยุโรปมาดึงนักเตะของพวกเขาไปโดยไร้แรงต่อต้าน … ยกเว้นนักเตะที่เงินซื้อไม่ได้ซึ่งเราจะพูดถึงต่อไปนี้ …

คดีพลิก

ทั้งฤดูกาลแพ้แค่เกมเดียว เก็บได้ถึง 91 แต้ม นักเตะแนวรุกสุดอันตรายแบบยกแพ็ค ดีที่สุด และครบทุกสไตล์ทั้ง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช, ดาวิด เทรเซเก้ต์, อาเดรียน มูตู และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ขณะที่แดนกลางและแนวรับไม่ต้องพูดถึง อุดมไปด้วยแข้งเวิลด์คลาสเกินครึ่งทีม

นี่คือสิ่งทีเกิดขึ้นกับสโมสร ยูเวนตุส ในฤดูกาล 2005-06 ด้วยความพร้อมขนาดนี้อย่างน้อยๆ พวกเขาควรจะต้องเป็นแชมป์ลีกจริงไหม? … นั่นถูกแค่ครึ่งเดียวเพราะ 91 แต้มที่เก็บได้พาพวกเขาเข้าวินตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่จบ ทว่าหลังจากนั้นคดีก็พลิก! … เพราะมีการเปิดเผยว่า ยูเวนตุส “โกง” ด้วยการล็อคผลการแข่งขันและล็อบบี้ (ตกลงล่วงหน้า) กับกรรมการในแต่ละนัด

คดีดังกล่าวมีชื่อว่า “กัลโช่โปลี” หากจะให้ลงลึกถึงรายละเอียดคงต้องใช้เวลาแจกแจงเยอะมาก แต่สรุปโดยรวมคือ ลูชาโน่ มอจจี้ 1 ในผู้บริหารของ ยูเวนตุส ขณะนั้น ใช้อิทธิพลที่มีติดต่อกับผู้ตัดสิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการแข่งขัน กัลโช่ เซเรีย อา อยู่เสมอ และนั่นผิดกฎที่ทางลีกตั้งไว้ นอกจากนี้เมื่อสอบสวนขึ้นศาลกันเรียบร้อยพบว่า ยูเวนตุส คือทีมที่ได้ผลประโยชน์จากการล็อบบี้ไว้ล่วงหน้าจริง แถมยังมีการขู่ใช้ความรุนแรงต่อคนที่ไม่ปฎิบัติตามคำสั่งอีกด้วย เรื่องจึงจบตรงที่พวกเขาต้องรับกรรม และลากผู้เกี่ยวข้องอีก 4 ทีมมาร่วมแชร์ความผิดครั้งนี้ด้วย

ยูเวนตุส หัวเรือใหญ่โดนหนักที่สุดด้วยการปรับจากแชมป์ลงไปอันดับสุดท้าย ตกชั้นไป เซเรีย บี พร้อมตัดคะแนนในฤดูกาลถัดไปอีก 9 แต้ม (ลดโทษจากตอนแรกโดนตัด 30 แต้ม) ส่วนอีก 4 ทีมอย่าง ฟิออเรนติน่า, ลาซิโอ, เอซี มิลาน และ เรจจิน่า โดนตัดแต้มไปตามระเบียบ ต่างกันแค่ฤดูกาลที่โดนตัดและจำนวนที่โดนเท่านั้น

สิ่งที่หนักพอๆ กับการโดนปรับตกชั้นของ ยูเว่ คือการโดนริบแชมป์ 2 สมัยก่อนหน้านี้ (ปี 2005 และ 2006) และสิ่งสุดท้ายคือความช็อคของเหล่าบุคลากรในทีมทั้งสต๊าฟโค้ชและผู้เล่น ที่พวกเขาก็เพิ่งรู้ว่าที่พวกเขาเป็นแชมป์และชนะมามากมาย เกิดขึ้นจากความไม่เป็นธรรม

ทุกคนเชื่อว่าด้วยคุณภาพนักเตะระดับเวิลด์คลาสกว่าครึ่งทีม นอกจากนี้ยังมีโค้ชที่มีประสบการณ์อย่าง ฟาบิโอ คาเปลโล่ ต่อให้ไม่ต้องเล่นลับลมคมใน อย่างไรเสีย ยูเวนตุส ก็ดีพอที่จะเป็นแชมป์ เซเรีย อา อยู่แล้ว


“เมื่อพิจารณาจากจุดที่ผมอยู่ ผมเองไม่สามารถคิดว่าจะหาคำใดที่เหมาะสมมาพูดถึงเหตุการณ์นี้ได้เลย แต่ที่แน่ๆ ครั้งหนึ่งผมเคยบอกไว้แล้วว่า สคูเด็ตโต้ ที่พวกเราได้นั้นเกิดจากชัยชนะในสนาม” คาเปลโล่ กล่าว

ขณะที่แฟนบอลของ ยูเวนตุส รู้สึกเจ็บปวดมากเมื่อรู้ว่าสโมสรที่พวกเขารักเล่นสกปรก ราฟ โกปาล บก. ของเว็บไซต์แฟนคลับของ ยูเวนตุส เปิดเผยว่าสิ่งที่เจ็บปวดจริงๆ คือการโดนสายตาคนภายนอกตัดสินว่า ยูเวนตุส เป็นทีมที่ไร้เกียรติและทำเรื่องสกปรก

“ผมทนเห็นสโมสรที่ผมรักหมดความน่าเชื่อถือและความเคารพในฤดูร้อนนั้น ความรู้สึกมันพุ่งพล่านมั่วไปหมดจนน่าตกใจ มันยากมากที่จะเข้าใจสิ่งต่างๆ ผมไปดูเกมที่สนาม ผมเห็นเราคว้าแชมป์ แต่ผมเรียนตามตรงว่าเราไม่ได้สิทธิพิเศษอะไรจากกรรมการเลยด้วยซ้ำ”

“ผู้คนมองมาจากภายนอกและตั้งสมมติฐานใส่เราอย่างรวดเร็ว อาจจะมีทีมอื่นโดนคดีนี้ด้วย แต่เราคือทีมที่ได้รับความรุนแรงมากที่สุด ยูเวนตุส เคยเป็นทีมที่ไร้ที่ติ เราคือทีมที่ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน ชื่นชม เราต่อกรกับ เรอัล มาดริด ยุค กาลาติกอส ได้อย่างสูสี และตอนนี้เรากำลังจะต้องไปใช้ชีวิตในลีกรองอย่าง เซเรีย บี … ผมว่ามันไม่ยุติธรรมสำหรับเราเลย” ราฟ โกปาล กล่าว

วันแห่งการยอมรับความจริง

จะยอมรับหรือไม่ ยุติธรรมแค่ไหน ตอนนี้ไม่สำคัญแล้ว ยูเวนตุส โดนปรับตกชั้นและตัด 9 แต้ม พวกเขาไม่มีเวลาที่จะต่อรองอะไร นอกเสียจากการพยายามบริหารทีมในแบบที่ไม่เคยทำมานานแสนนาน นั่นคือการปรับลดภาระค่าใช้จ่าย ปรับสมดุลทีมให้เหมาะสมสำหรับการลงไปลุยในลีกล่างที่กำลังจะมาถึง

มันไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ที่ทีมเคยลุ้นทุกแชมป์ที่ลงแข่ง ต้องถอยตัวเองลงมาสู้เพื่อการเลื่อนชั้น เรื่องนี้ทุกสโมสรบนโลกนี้รู้ดีว่า ยูเวนตุส กำลังจะจมน้ำตายด้วยผู้เล่นมูลค่ามหาศาลและค่าเหนื่อยมากมาย หากไม่มีการระบายออก ไม่แน่ว่าความตกต่ำอาจจะไม่จบแค่ตรงนี้ก็ได้

ขณะที่ตัวผู้เล่นเองต้องเจอกับมาตรการรัดเข็มขัดลดค่าเหนื่อยลงมาตามตกลงราว 25-50% แน่นอนว่าไม่มีใครรับได้เช่นกัน ดังนั้นนักเตะอย่าง ซลาตัน อิบราฮิโมวิช และ พาทริก วิเอร่า จึงตัดสินใจย้ายไปอยู่กับ อินเตอร์ นอกจากนี้ยังมี เอเมอร์สัน และ ฟาบิโอ คันนาวาโร่ ย้ายไปอยู่กับ เรอัล มาดริด, อาเดรียน มูตู ย้ายไป ฟิออเรนติน่า และ 2 กองหลังอย่าง จานลูก้า ซามบร็อตต้า และ ลิลิยง ตูราม ย้ายไปอยู่กับ บาร์เซโลน่า ขณะที่กุนซือผู้นำทีมเป็นแชมป์อย่าง คาเปลโล่ ก็ย้ายไปคุม เรอัล มาดริด เช่นกัน

ดูจากรายชื่อของนักเตะแต่ละคนที่ย้ายออกจากทีม รวมไปถึงทีมใหม่ที่เป็นปลายทางเหล่านั้น หากให้เดาสถานการณ์จากคนนอกคงคิดว่า ยูเวนตุส ได้เงินเข้ามาเยอะมาก แต่ความจริงนั้นเปล่าเลย … ในยุคไล่เลี่ยกันที่ ซีเนอดีน ซีดาน คนเดียวมีค่าตัว 50 ล้านปอนด์ ยูเวนตุส กลับขายนักเตะระดับหัวแถวของโลกในแต่ละตำแหน่งที่กล่าวมาทั้งหมด 7 คนและได้เงินกลับมาเพียงแค่ 70 ล้านปอนด์เท่านั้น

ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่านักเตะอย่าง ลิลิยง ตูราม ขายได้แค่ 4 ล้านปอนด์, คันนาวาโร่ ได้ 5 ล้านปอนด์ มีเพียง ซลาตัน คนเดียวเท่านั้นที่พวกเขาขายได้มากกว่า 20 ล้านปอนด์และขายออกไปในราคาที่ไม่ขาดทุนจากที่ซื้อมา (ซื้อมา 15 ล้านปอนด์ ขายได้ 21 ล้านปอนด์)

สาเหตุที่ทำให้เรื่องเช่นนี้มันเกิดขึ้น เพราะทีมมหาอำนาจทั่วยุโรปรู้ดีว่า ยูเวนตุส นั้นไร้อำนาจในการต่อรอง เพราะนอกจากพวกเขาจำเป็นต้องขายแล้ว นักเตะก็อยากย้ายเพราะไม่มีใครอยากเล่นใน เซเรีย บี อีกทั้งค่าเหนื่อยก็ลดตามที่ได้กล่าวไป แม้ ยูเว่ อยากจะรั้งแค่ไหนก็ทำไม่ได้ พวกเขาต้องจำใจรับข้อเสนอที่เล็กกะจิ๋วหลิวหากเทียบกับคลาสของนักเตะที่ขายไป

ส่วนคนที่พวกเขาซื้อมาทดแทนนั้น มีรายเดียวที่เสียเงิน คือ ฌอง อแล็ง บูมซง กองหลังจาก นิวคาสเซิล ราคา 4 ล้านปอนด์ ซึ่งจะว่ากันตรงๆ แล้วคือผู้เล่นที่อยู่ระดับห่างกับนักเตะที่ขายออกไปอย่างสิ้นเชิง ส่วนที่เหลือเป็นการคว้านักเตะฟรี และหายืมตัวมาเล่นตามออปชั่นที่ขายนักเตะไป อาทิ ได้ วาเลรี่ โบยินอฟ มาจาก ฟิออเรนติน่า ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในดีลของ มูตู และ คริสเตียโน่ ซาเน็ตติ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของดีล วิเอร่า

ในช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในประวัติศาสตร์ของสโมสร เสื่อมเสียทั้งเกียรติและผู้เล่นชั้นดีไปพร้อมๆ ดูเหมือนว่า ยูเวนตุส จะเจอทางตันแล้ว … ทว่าโลกนี้มีสองด้านเสมอ ไม่มีสิ่งใดเลวร้ายทั้งหมด เพราะในวันที่พวกเขาตกต่ำ ทุกคนอยากย้ายหนีเพื่อชีวิตที่ดีกว่า  ยูเวนตุส กลับได้พบว่าความรักที่แท้จริงนั้นเป็นอย่างไร และมีค่ากับพวกเขาแค่ไหน

เซเรีย บี ไม่ใช่เรื่องน่าอาย 

จริงๆ แล้วไม่ใช่แค่ 7 นักเตะระดับเทพเท่านั้นที่ได้รับข้อเสนอและ ยูเวนตุส ไม่สามารถต่อรองได้ … ยูเว่ ควรจะทีมแตกด้วยซ้ำ เพราะตอนนั้น 11 ตัวจริงชุดแชมป์ลีกปี 2005-06 มีข้อเสนอจากทีมอื่นขอซื้อตัวทุกคน พวกเขาจะได้เล่นเวทีใหญ่ จะได้เงินมากขึ้นหากย้ายออกไป แต่มีนักเตะบางกลุ่มที่เลือกจะไม่ทำ และตัดสินใจอยู่กับ ยูเวนตุส ต่อไปในลีกล่างและต้องใช้ชีวิตบนความเสี่ยง เพราะไม่มีอะไรการันตีได้เลยว่าจะเกิดอะไรขึ้นในอนาคต

มีนักเตะระดับโลก 5 คน ที่ปฎิเสธทุกข้อเสนอ พวกเขาไม่ต้องการให้ ยูเวนตุส ขาดทุน พวกเขาไม่ต้องการให้ทีมเสียเชิง และพวกเขาไม่ต้องการให้ทีมตกต่ำตลอดไป และตั้งใจที่จะช่วยให้ทีมกลับมายืนอย่างสง่าผ่าเผยและมีเกียรติอีกครั้ง

จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดาวิด เทรเซเก้ต์, เมาโร คาโมราเนซี่, พาเวล เนดเวด และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ คือชื่อของพวกเขาเหล่านั้น และเป็นชื่อของนักเตะที่ต่อให้เวลาจะผ่านไปอีกสักกี่ร้อยปี แฟนบอลยูเวนตุสจะไม่มีวันลืมแน่นอน

“เมื่อยูเวนตุสตกชั้นไปเล่นในเซเรีย บี ผมบอกตามตรงว่าพวกเราทั้ง 5 คน จะย้ายไปเล่นกับทีมไหนก็ได้ในโลก ข้อเสนอมาวางที่โต๊ะทุกวัน แต่พวกเราตัดสินใจที่จะอยู่ต่อ ความเห็นของผมคือทีมกำลังลำบาก และเราจำเป็นต้องทำอะไรตอบแทนให้กับสโมสรแห่งนี้บ้าง” พาเวล เนดเวด เจ้าของรางวัล บัลลงดอร์ หรือนักเตะที่เก่งที่สุดในโลกในปี 2003 กล่าว

ขณะที่ เทรเซเก้ต์ นั้นอยู่ในข่ายที่ย้ายทีมง่ายที่สุด เพราะสัญญาของเขาใกล้จะหมด ราคาของเขาจะถูกมากหากทีมใดได้ไป กระนั้นเมื่อเขารู้ว่าทีมจะตกชั้น สิ่งที่เขาทำคือ รีบไปเจรจากับบอร์ดบริหาร และขอต่อสัญญาเพื่อช่วยทีมต่อทันที

ยูเว่ ได้ 5 แข้งดังที่กล่าวมาวางเป็นแกนหลัก และในสถานการณ์ร้ายๆ ก็กลายเป็นโอกาสให้นักเตะเยาวชนและดาวรุ่งของสโมสรมีโอกาสลงสนามมากขึ้น ฤดูกาล 2006-07 ในเซเรีย บี คือการแจ้งเกิดเต็มตัวของนักเตะอย่าง จอร์โจ้ คิเอลลินี่, เคลาดิโอ มาร์คิซิโอ ที่ภายหลังถูกจดจำในฐานะตำนานของสโมสรทั้งคู่ ส่วนนักเตะคนอื่นๆ ส่วนใหญ่เป็นแข้งที่ยืมตัวมา หรือแข้งตัวสำรองสมัยยังเป็นยอดทีมในลีกสูงสุดอยู่ทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตามแม้จะลดลงในแง่ของคุณภาพ แต่ในแง่ความมุ่งมั่น ผู้เล่นเหล่านี้ขับเคลื่อนยูเวนตุสไปข้างหน้าได้มากกว่าที่เคยเป็น ทุกคนมีความคิดฝังสมองว่าการเล่นสกปรกครั้งนี้ “พวกเขาไม่เกี่ยว” พวกเขาสู้เต็มที่เสมอ ดังนั้นสิ่งที่จะบอกได้ว่าพวกเขาเก่งจริง และมีเกียรติจริง คือการพาทีมขึ้นไปประสบความสำเร็จแบบเดิมให้ได้

“รู้ไหม อะไรที่ผมรู้สึกหลังจากเลือกที่จะอยู่ในเซเรีย บี กับ ยูเวนตุสต่อไป? หรือนักเตะบางคน หรือลูกผู้ชายบางคน ต้องการที่จะแสดงจุดยืนของพวกเขาต่อสาธารณชน ต่อแฟนๆ มันเป็นช่วงเวลาที่มีความหมาย และมีข้อความที่ผมอยากจะส่งไป”

“สำหรับชีวิตนักฟุตบอล คุณสามารถส่งข้อความของคุณไปถึงแฟนๆ ได้ด้วยการแสดงความจงรักภักดีต่อทีม … และแน่นอน ผมดีใจมากที่ผมเลือกทำแบบนั้น” จานลุยจิ บุฟฟ่อน นักเตะ 1 ใน 2 ที่อยู่ในทีมชุดนั้นและยังเป็นผู้เล่นของ ยูเวนตุส ชุดปัจจุบัน (อีกคนคือ จอร์โจ้ คิเอลลินี่) กล่าว

คำพูดของพวกเขาหล่อเหลาเอาเรื่อง จนดูว่าโลกสวยเกินไปหน่อย แต่แน่นอนทั้ง 5 นักเตะที่ไม่ยอมย้ายไม่ได้หล่อแค่คำพูด พวกเขาลงเล่นใน เซเรีย บี ด้วยความมุ่งมั่นไม่ต่างจากเดิม และที่สำคัญคือทุกคนจริงจัง และสนุกกับชีวิตในลีกรองที่พวกเขาไม่เคยสัมผัสมาก่อน ผลงานทุกคนออกมาโดดเด่นมาก 3 นักเตะอย่าง เดล ปิเอโร่ (23 ประตู), เทรเซเก้ต์ (15 ประตู) และ เนดเวด (12 ประตู) กลายเป็นดาวซัลโวสูงสุดของทีมในปีนั้น ขณะที่บุฟฟ่อน เสียแค่ 21 ประตูจากเกมลีกที่ลงสนาม 37 นัด

ปีนั้นเป็นที่ ยูเวนตุส รักษาผลงานได้ดีตลอดทั้งซีซั่น เดินหน้าเก็บชัยชนะเป็นว่าเล่น แม้จะโดนหักไป 9 แต้ม แต่ก็คว้าแชมป์ลีกได้อย่างง่ายดาย ด้วยการเก็บไป 85 (+9) แต้ม แต่เหนือสิ่งอื่นใดพวกเขากลายเป็นทีมที่ไปสนามไหนคนดูก็เต็มสนาม และทำให้ปีนั้น เซเรีย บี น่าสนใจมากที่สุดในประวัติศาสตร์

มันเหมือนเรื่องราวของเหล่าลูกเศรษฐีที่ได้ไปใช้ชีวิตในชนบทเป็นครั้งแรก บางคนทนกลิ่นโคลนสาบควายไม่ได้ และขอกลับบ้านหลังใหญ่ที่แสนสบาย แต่สำหรับ จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดาวิด เทรเซเก้ต์, เมาโร คาโมราเนซี่, พาเวล เนดเวด และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ รวมถึงนักเตะคนอื่นๆ กลับมองอีกด้าน พวกเขาไม่กลัวเลอะ ไม่ห่วงเสื้อผ้าอาภรณ์ และเลือกที่จะสนุกกับประสบการณ์อันแปลกใหม่ และเป็นประสบการณ์ที่เหล่าลูกเศรษฐี (นักเตะระดับโลก) คนอื่นๆ นั้นยากที่จะได้ประสบพบเจอ

“ให้ย้อนกลับไปตัดสินใจ ผมก็จะทำเหมือนเดิมนั่นแหละ ตอนเล่นใน เซเรีย บี เป็นปีที่สนุกที่สุดปีนึงของผมเลย” บุฟฟ่อน กล่าวในวันฉลองแชมป์ นอกจากนี้ยังมี เนดเวด ที่ตอบคำถามนี้คล้ายๆ กันว่า

“บางครั้งคุณก็อย่าไปคิดมากเรื่องความเสี่ยงในอาชีพการงาน การตัดสินใจจากเสียงในหัวใจนี่แหละที่สำคัญ ที่ยูเวนตุส ผมรับประกันได้ว่าผมไม่เคยตัดสินใจผิดพลาดเลย มันเป็นหน้าที่ของเราที่จะเล่นในเซเรีย บี ผมไม่เคยมีเรื่องตัวเลขและคำนวณรายรับไว้ในหัว ถ้าเมื่อไหร่ที่คุณทำตามหัวใจ เมื่อนั้นคุณจะไม่รู้สึกผิดพลาด แม้คุณจะสูญเสียบางอย่างไปก็ตาม” พาเวล เนดเวด กล่าว

แล้วพวกเขาได้อะไรตอบแทน? 

ยูเว่ เลื่อนชั้นในปีเดียว แต่ปัญหาคือเมื่อกลับมายังลีกสูงสุด คุณภาพผู้เล่นที่เล่นในลีกรองด้วยกันมันยังไม่เพียงพอที่จะประสบความสำเร็จในทันที นอกจากนี้กุนซือที่พาเลื่อนชั้นอย่าง ดิดิเย่ร์ เดส์ชองส์ ก็ลาออก และเอา เคลาดิโอ รานิเอรี่ มาคุมทีมแทน ซึ่งเป็นช่วงเวลาการตั้งไข่ที่ยากลำบากมาก ยูเว่ ไม่ได้ใกล้เคียงแชมป์ลีกเลยเป็นระยะเวลาถึง 4 ปี

เรียกได้ว่า เนื้อไม่ได้กิน หนังไม่ได้รองนั่ง แถมยังเอากระดูกมาแขวนคอก็ได้ สำหรับเหล่า 5 นักเตะผู้จงรักภักดีที่ช่วยกันพาทีมขึ้นมา แม้ทั้งหมดจะอยู่ในสถานะลอยตัวไม่โดนวิจารณ์ แต่ทุกคนรู้สึกแย่อยู่ดี เพราะทีมโดนด่า … ซึ่งในฐานะทีมพวกเขาก็ต้องรับผิดชอบด้วย

การกลับมาและไร้ความสำเร็จแถมทีมยังหนักไปทางล้มเหลว หมายความว่านักเตะชุดนี้ยังคงโดนปรามาสว่า “เก่งไม่จริง” หนำซ้ำแม้แต่แฟนบอลทีมตัวเองก็ยังวิจารณ์ว่า การกลับขึ้นสู่ลีกสูงสุดครั้งนี้เกิดความผิดพลาดมากมาย และยากที่จะกลายเป็นทีมที่ยิ่งใหญ่อีกครั้ง

“ทีมไม่ได้มีวิสัยทัศน์สำหรับอนาคตเลย เราใช้เงินสูญเปล่าไปกับเหล่าผู้เล่นที่ไม่ดีพอ ความรู้สึกอยากจะเอาชนะหายไปจากทีม นักเตะที่เข้ามาหลังจากกลับสู่ เซเรีย อา ล้มเหลวแทบทุกคน ทั้งหมดมันก็อย่างที่ผมพูดนั่นแหละ” เป็นอีกครั้งที่ บก. จากเว็บไซต์แฟนคลับของสโมสร โจมตีทีมตัวเอง

จนกระทั่งทุกอย่างมาเปลี่ยนไปในยุคที่ อันเดรีย อันเญลลี่ เข้ามาครองตำแหน่งประธานสโมสร และแต่งตั้ง จูเซปเป้ มาร็อตต้า เข้ามาดูแลฝ่ายบริหารด้านฟุตบอล จนกระทั่งมาลงตัวกับกุนซือที่เคยเป็นนักเตะของทีมอย่าง อันโตนิโอ คอนเต้ จึงทำให้ทีมตั้งลำได้อีกครั้ง และ ยูเว่ ก็เริ่มกลับมายิ่งใหญ่ จนถึงเวลานี้พวกเขาครองแชมป์ได้ถึง 8 สมัยติดต่อกันเข้าให้แล้ว

มีเพียง 2 นักเตะจากยุค 5 เซียนแห่ง เซเรีย บี ที่ได้อยู่กับทีมจนถึงวันที่ชูถ้วยสคูเด็ตโต้ นั่นคือ บุฟฟ่อน และ เดล ปิเอโร่ แต่ถึงอย่างนั้น อีก 3 รายที่ออกจากทีมหรือเลิกเล่นไปก่อนอย่าง เทรเซเก้ต์, คาโมราเนซี่ และ เนดเวด ก็ไม่ได้รู้สึกตะขิดตะขวงใจกับความสำเร็จที่พวกเขาไม่ได้รับ แม้ว่าพวกเขาจะเป็นรากฐานของมันก็ตาม

ทุกคนเคลียร์มากในแง่ของความรู้สึก เพราะสโมสรนี้เป็นยิ่งกว่าอดีตต้นสังกัดของพวกเขาไปแล้ว ดังนั้นต่อให้ไม่ได้แชมป์ ก็ไม่อาจเปลี่ยนแปลงความภาคภูมิใจของพวกเขาได้เลย … เพราะพวกเขาได้สิ่งที่ยิ่งใหญ่ยิ่งกว่าแชมป์เสียอีก

“การเล่นให้กับ ยูเวนตุส คือประสบการณ์ที่ดีที่สุดในชีวิตนักฟุตบอลของผม ผมอยู่กับทีมมายาวนานประสบความสำเร็จ ล้มเหลว และตื่นเต้นถึงขีดสุดกับทีมๆ นี้ ซึ่งอารมณ์ทั้งหมดที่บอกไปคือแก่นแท้สำหรับอาชีพนักฟุตบอล … ช่วงเวลาคือสิ่งที่สำคัญที่สุด” เมาโร คาโมราเนซี่ ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวเองออกมาในฐานะนักเตะคนหนึ่ง

ส่วนในมุมมองของแฟนๆ นั้นไม่ต้องพูดถึง ทั้ง 5 คน กลายเป็นนักเตะในลิสต์ระดับท็อป 10 ที่พวกเขารักมากที่สุดอยู่แล้ว ไม่ว่าใครที่เข้ามาทำงานกับ ยูเว่ ในฐานะใด ทุกคนจะบอกในทิศทางเดียวกันเสมอ นั่นคือการให้เกียรติเหล่าผู้กล้ายุคล่าแชมป์ เซเรีย บี เหล่านี้

“ยูเวนตุส มีนักเตะชื่อดังมากมายหลายคน แต่ทำไมพวกคุณจึงดูเหมือนคนที่ได้ความรักจากแฟนๆ มากที่สุด?” นิตยสาร ฟอร์บส์ ถามกับ พาเวล เนดเวด ในวันที่เขาเลิกเล่นก่อนที่ เนดเวด จะตอบได้ชัดเจน และน่าจะเป็นคำตอบที่พูดแทนเพื่อนๆ ของพวกเขาทั้ง 4 คนได้เป็นอย่างดีว่า

“ผมเดาว่าคงเป็นสไตล์การเล่นของผมมั้ง ผมให้ 100% กับสโมสรแห่งนี้เสมอ ทุกคนได้เห็นและชื่นชมมัน ตอนลงไป เซเรีย บี ผมและพวกเรารวม 5 คนตัดสินใจจะอยู่สู้กับทีมต่อไป และทำให้พวกเราทุกคนกลายเป็นนักเตะอมตะ ไม่มีวันตายจากหัวใจของแฟนบอลยูเวนตุสได้” เนดเวด กล่าว

เรื่องนี้ไม่จำเป็นต้องมีบทสรุปอะไรให้มากไปกว่า “บุคคลหว่านพืชเช่นใด ย่อมได้ผลเช่นนั้น” …

จานลุยจิ บุฟฟ่อน, ดาวิด เทรเซเก้ต์, เมาโร คาโมราเนซี่, พาเวล เนดเวด และ อเลสซานโดร เดล ปิเอโร่ ยกหัวใจให้ทีมและแฟนบอลแบบไม่มีข้อแม้ นั่นคือเหตุผลที่แฟนๆ ที่นี่รักพวกเขามาก แม้บางคนจะไม่ได้แขวนสตั๊ดกับทีมไป และอาจจะลาทีมไปโดยไม่ได้ตั้งตัวก็ตาม

การตกชั้นและลงไปเล่นในลีกรอง 1 ปี อาจจะเป็นจุดด่างพร้อยเล็กๆ ในชีวิตของพวกเขาเหล่านี้จากมุมมองของบุคคลภายนอก ทว่าพวกเขาทั้ง 5 คนมองมันต่างออกไป เซเรีย บี และความตกต่ำเพียงชั่วคราวไม่ใช่ความด่างพร้อย แต่มันคือรอยแผลแห่งความภาคภูมิใจต่างหาก

คลิกเลย >>> โปรโมชั่นแทงบอลฟรี

อ่านข่าวอื่นๆที่ >>> https://l-aimant-moto.com/