ถ้าเป็นตลอดหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ ประเด็นที่บรรดาแฟนบอลใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี
ถ้าเป็นตลอดหลายฤดูกาลก่อนหน้านี้ ประเด็นที่บรรดาแฟนบอลใน กัลโช่ เซเรีย อา อิตาลี มักจะพูดถึงกันก็หนีไม่พ้นการที่ นาโปลี จะขึ้นมาแย่งแชมป์ลีกกับ ยูเวนตุส หลังจากที่ทีมดังจากเมืองเนเปิ้ลส์มักจะเล่นได้โดดเด่นจนถูกยกให้เป็นทีมที่มีโอกาสมากที่สุดที่จะเขี่ย ยูเวนตุส ตกจากบัลลงก์ได้
น่าเศร้าที่ซีซั่นนี้มันไม่เป็นแบบนั้น ปัจจุบัน นาโปลี เป็นอันดับ 7 ของตารางคะแนน มีเพียง 21 แต้ม จากการลงเล่น 15 นัด ตามหลัง อินเตอร์ มิลาน ที่เป็นจ่าฝูงห่างถึง 17 คะแนน และที่จริงไม่ต้องพูดถึงเรื่องการลุ้นแชมป์เลย ขนาดการลุ้นติดท็อปโฟร์เพื่อให้ได้สิทธิ์เล่น ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ซีซั่นหน้า ยังถือว่าหินพอตัว เพราะพวกเขามีคะแนนน้อยกว่า กายารี่ ทีมในอันดับ 4 อยู่ 8 แต้มด้วยกัน
ผลงานอันเลวร้ายดังกล่าวทำให้กระแสข่าวที่ว่า คาร์โล อันเชลอตติ จะโดนปลดจากการเป็นเทรนเนอร์ของ นาโปลี มีออกมาเรื่อยๆ ตลอดช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา และในที่สุด อันเชลอตติ ก็ต้องกลายเป็นคนตกงาน ผลงานสุดท้ายของเขากับ นาโปลี คือการพาทีมชนะ เกงค์ 4-0 ในเกม ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม จนทำให้ทีมได้เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
แน่นอน ถ้าวัดตามผลงานในลีก การสั่งปลด อันเชลอตติ ก็ดูพอจะมีความชอบธรรม เพราะทีมระดับ นาโปลี ควรจะต้องมีผลงานที่ดีกว่านี้ อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่า เดอ เลาเรนติส ก็มีส่วนทำให้ทีมมีสภาพเหมือนอย่างในปัจจุบัน
จริงอยู่ว่าคนเป็นโค้ชคือคนที่วางแผนการเล่น แต่ฟุตบอลมันไม่ได้ขึ้นอยู่กับ “แท็กติก” เพียงอย่างเดียว บรรยากาศของทีมก็ถือว่ามีผลกับฟอร์มของนักเตะในสนามเช่นกัน และซีซั่นนี้ เดอ เลาเรนติส ก็เป็นคนที่ทำลายบรรยากาศอันชื่นมื่นของ นาโปลี ด้วยมือของตัวเอง
เรื่องของเรื่องก็คือ เดอ เลาเรนติส โมโหกับผลงานของทีมมากๆ จนอยากให้นักเตะทุกคนต้องเข้าแคมป์เก็บตัวแบบปัจจุบันทันด่วนเป็นเวลา 1 สัปดาห์เต็ม หลังจากที่ทีมแพ้ โรม่า และเสมอกับ อตาลันต้า โดยการเข้าแคมป์เก็บตัวมันก็หมายความว่าบรรดานักเตะจะไม่ได้มีโอกาสกลับไปเจอครอบครัวที่บ้าน ซึ่งว่ากันว่านั่นทำให้นักเตะหลายคนของ นาโปลี โมโหสุดๆ และตำหนิ เดอ เลาเรนติส กันยกใหญ่
ไม่เพียงแค่นั้น อันเชลอตติ เองก็ไม่เห็นด้วยกับแนวคิดของ เดอ เลาเรนติส เหมือนกัน ด้วยการบอกว่า “มันเป็นไอเดียของบอร์ดบริหาร และเราก็ยอมรับมีน แต่ถ้าคุณถามผมว่าเห็นด้วยกับเรื่องนี้รึเปล่าแล้วน่ะ ผมก็ต้องตอบเลยว่าผมไม่เห็นด้วย”
ว่ากันว่าแนวคิดดังกล่าวทำให้นักเตะ นาโปลี หลายคนไม่พอใจมากๆ และตำหนิ เดอ เลาเรนติส กันยกใหญ่ ซ้ำร้ายมันยังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่าง อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส เลวร้ายลงไปอีก
รอยร้าวระหว่าง อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส มีมาตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมาแล้ว หลังจากที่พวกเขามีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องนโยบายการเสริมทัพ และ อันเชลอตติ ก็มองว่าทีมทำการเสริมทัพช้าเกินไป จนทำให้กลัวว่าเขาจะชวดนักเตะที่เป็นเป้าหมายบางราย ทั้งที่ทีมอุตส่าห์แอบทำเงื่อนไขส่วนตัวกับนักเตะเหล่านั้นได้แล้ว โดยปัญหาเรื่องนโยบายการเสริมทัพมันเป็นประเด็นร้อนจนถึงขนาดทำให้ อันเชลอตติ กับ เดอ เลาเรนติส ต้องนัดเคลียร์ใจกันอย่างเร่งด่วน
เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่ตอกย้ำถึงการร่วมงานด้วยยากของ เดอ เลาเรนติส มากขึ้นไปอีก โดยมันมักจะมีการซุบซิบกันว่านักธุรกิจในวงการภาพยนตร์อิตาลิรายนี้ชอบก้าวก่ายการทำทีมมากเกินไป และในอดีตเขาก็เคยจุดประเด็นร้อนเกี่ยวกับกุนซือของทีมตัวเองมาแล้ว
ยกตัวอย่างเช่น ในสมัยที่ ราฟาเอล เบนิเตซ เป็นกุนซือของ นาโปลี นั้น เดอ เลาเรนติส ก็เคยสั่งให้ทีมต้องเข้าแคมป์เก็บตัวแบบด่วนจี๋ในปี 2015 เช่นกัน และมันก็ทำให้ เบนิเตซ โมโหสุดขีด ทั้งที่ตอนแรกๆ ทั้งสองคนนี้รักกันมากๆ โดยตอนที่ได้ เบนิเตซ มาคุมทีมใหม่ๆ นั้น เดอ เลาเรนติส ถึงขั้นชม เบนิเตซ ด้วยซ้ำว่าจะพาทีมก้าวไปอีกระดับได้
เบนิเตซ กล่าวในประเด็นที่โดนสั่งจัดแคมป์ซ้อมว่า “ปีก่อนเราก็พิสูจน์ไปแล้วแท้ๆ ว่าเราสามารถชนะได้โดยที่ไม่ต้องมาเข้าแคมป์ซ้อมด่วนอะไรทั้งนั้น ไอ้นโยบายแบบนี้น่ะมันเป็นนโยบายที่คนยุค 1970 เขาใช้กัน คือผมน่ะไม่ได้คัดค้านกับการเข้าแคมป์ซ้อมด่วนหรอกนะ แต่ผมคัดค้านการเข้าแคมป์ซ้อมที่จะไม่ได้ช่วยอะไรนักเตะเลย แถมยังเป็นการสร้างความหงุดหงิดให้พวกเขาอีกต่างหาก”
เบนิเตซ กล่าวในประเด็นที่โดนสั่งจัดแคมป์ซ้อมว่า “ปีก่อนเราก็พิสูจน์ไปแล้วแท้ๆ
หรืออย่างตอนที่ เมาริซิโอ ซาร์รี่ ยังเป็นเทรนเนอร์ของ นาโปลี อยู่นั้น เดอ เลาเรนติส ก็ดันเคยออกมาพูดหน้าตาเฉยในช่วงต้นเดือนพฤษภาคม ปีก่อนว่า ซาร์รี่ คือคนที่ทำให้ทีมต้องชวดแชมป์ จากการไม่พยายามทำการโรเตชั่น
“มันเป็นเรื่องที่เลี่ยงไม่ได้ (ที่ นาโปลี จะชวดแชมป์) นอกจากว่าคุณจะใช้นักเตะทุกคนที่มีอยู่ในทีม ลองคิดดูสิ ถ้าเรามีการโรเตชั่นบ้างมันก็จะทำให้บางช่วงเรามีสภาพดีกว่านี้ และเตรียมพร้อมสำหรับช่วงโค้งสุดท้ายได้ดีกว่านี้ แต่ถ้าเราเอาแต่ใช้นักเตะชุดเดิมตลอดเวลาแล้วล่ะก็ มันก็จะเป็นอย่างนี้แหละ” ไม่กี่วันหลังจาก เดอ เลาเรนติส พูดแบบนั้น ซาร์รี่ ก็ไปคุม เชลซี
จริงอยู่ว่าสิ่งที่ เดอ เลาเรนติส พูดมันมีส่วนถูก แต่ในมุมหนึ่งนั้นมันก็ต้องมองด้วยว่าขุมกำลังของ นาโปลี ไม่แข็งแกร่งพอที่จะทำการโรเตชั่นแล้วยังได้ผลการแข่งขันที่ดีได้ หรือถ้าอยากจะพูดเรื่องนี้จริงๆ เขาก็น่าจะไปคุยกับ ซาร์รี่ เป็นการส่วนตัว ไม่ใช่ออกมาป่าวประกาศต่อหน้าสื่ออย่างนี้
นี่ยังไม่นับรวมกรณีของ วอลเตอร์ มาซซาร์รี่ ที่ เดอ เลาเรนติส ตามจิกกัดอยู่บ่อยๆ ในตอนที่ มาซซาร์รี่ ไปคุม อินเตอร์ อีก ขณะที่สถานการณ์ในตอนนี้มันก็ทำให้มีแฟนบอล นาโปลี บางคนที่ถึงขั้นขับไล่ เดอ เลาเรนติส แล้วด้วย ทั้งที่เขาเคยถูกยกให้เป็นฮีโร่ของทีมประหนึ่งพระเอกหนัง ในตอนที่เข้ามาซื้อทีมเมื่อปี 2004 ซึ่งเป็นตอนที่ทีมถูกตัดสินให้ล้มละลาย และลงไปเล่นใน ซีเรีย ซี 1
มันช่างเหมือนกับตลกร้ายที่ถึงแม้ เดอ เลาเรนติส จะโลดแล่นอยู่ในวงการภาพยนตร์ แต่นับตั้งแต่ใช้งาน มาซซาร์รี่ เป็นกุนซือแล้วนั้น เขาก็ไม่ค่อยจะมีตอนจบกับกุนซือคนไหนแบบแฮปปี้เอ็นดิ้งเลย และตอนนี้เรื่องราวของเขากับ นาโปลี มันก็กลายเป็นหนังดราม่าเต็มพิกัดแล้ว
เครดิตโดย: โปรโมชั่นแทงบอลฟรี
อ่านต่อได้ที่: https://line.me/R/ti/p/%40ufabetwins